พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราชของปวงชนชาวไทย วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปีถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของชาติ โดยเป็นวันที่ปวงชนชาวไทยได้ร่วมกันรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หรือพระปิยมหาราช พระมหากษัตริย์ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อชาติและประชาชนอย่างมากมาย และยังทรงดูแลทุกข์สุขของประชาชนชาวไทยไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในท้องถิ่นใดๆ ก็ตาม ด้วยการเสด็จประพาสไปยังหัวเมืองต่างๆ ทั้งการเสด็จประพาสอย่างเป็นทางการ และการเสด็จประพาสต้น (การเสด็จประพาสโดยไม่แจ้งหมายกำหนดการ) ที่จะทำให้ทรงรู้ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่แท้จริง หนึ่งในสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เคยเสด็จประพาสก็คือ “ถ้ำพระยานคร” ในอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถ้ำอันมีความงดงามวิจิตรพิสดารจนพระองค์มีพระราชประสงค์จะเสด็จมาประพาสถ้ำแห่งนี้สักครั้งหนึ่ง บรรยากาศอันงดงามภายในถ้ำพระยานคร “ถ้ำพระยานคร” ถูกค้นพบโดยเจ้าพระยานครศรีธรรมราช เมื่อครั้งที่เดินทางโดยทางเรือมุ่งหน้าขึ้นมาสู่กรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งได้นำเรือเข้ามาจอดพักหลบพายุในแถบนี้และสำรวจพบถ้ำที่อยู่ด้านบน ถ้ำนี้จึงได้ชื่อว่า “ถ้ำพระยานคร” และในคราเดียวกันนั้นเอง ก็ได้ขุดบ่อน้ำไว้ใช้ดื่มกิน เรียกว่า “บ่อพระยานคร” ซึ่งตั้งอยู่ก่อนถึงทางเดินขึ้นสู่ถ้ำพระยานคร ความงดงามของถ้ำแห่งนี้อยู่ที่หินงอกหินย้อยที่ผนังถ้ำซึ่งดูราวกับธารน้ำตก จนกระทั่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบ ก็ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จประพาสถ้ำ ในคราวเดียวกับที่เสด็จประพาสแหลมมลายู โดยได้เสด็จมาประพาสถ้ำพระยานครเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2433 ในการเดียวกันนี้ ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าขจรจรัสวงศ์ ทรงออกแบบสร้างพลับพลาจตุรมุข กว้าง 2.55 เมตร ยาว 8 เมตร สูง 2.55 เมตร โดยสร้างขึ้นที่กรุงเทพฯ แล้วส่งมาประกอบทีหลัง โดยให้พระยาชลยุทธโยธินเป็นนายงานก่อสร้าง และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมายกช่อฟ้าด้วยพระองค์เอง และพระราชทานชื่อว่า “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ปัจจุบัน พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของถ้ำพระยานคร เมื่อมองเข้าไปจากปากถ้ำแล้ว จะเห็นแสงอาทิตย์ส่องผ่านปล่องภูเขาด้านบน ลงมากระทบกับพลับพลาที่ประทับ กลายเป็นแสงเรืองรองส่องประกาย และยังถูกยกให้เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ เป็น 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวอันมหัศจรรย์ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว 1 ใน 9 ความมหัศจรรย์ของแหล่งท่องเที่ยวยามกลางวันที่จะงดงามที่สุด ตามคู่มือท่องเที่ยว 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และที่สำคัญ พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ยังถูกนำมาเป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อีกด้วย พระปรมาภิไธยย่อของรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 นอกจากการเสด็จมาประพาสถ้ำพระยานครในครั้งนั้น และทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพลับพลาจตุรมุขขึ้น ก็ยังโปรดเกล้าฯ ให้จารึกพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร. ไว้ ณ บริเวณผนังถ้ำด้านเหนือของพลับพลา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าพระองค์ได้ทรงเคยเสด็จมาประพาส ณ สถานที่แห่งนี้แล้ว และนอกจากรัชกาลที่ 5 แล้ว ก็ยังมีพระมหากษัตริย์อีกสองพระองค์ที่ได้เสด็จประพาสถ้ำพระยานคร ด้วยเช่นกัน นั่นคือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยย่อ ป.ป.ร. เมื่อครั้งเสด็จประพาสถ้ำนี้เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2469 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เคยเสด็จประพาสถ้ำพระยานครสองครั้ง เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2501 และวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2524 ทางเดินเพื่อขึ้นไปชมถ้ำพระยานคร ผู้ที่มาเที่ยวชมยัง “ถ้ำพระยานคร” จะได้เห็นความงดงามของหินงอกหินย้อย และความงามของพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์เมื่อกระทบแสงแดด (ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะชมพระที่นั่งได้งามที่สุดคือ 10.30-11.00 น. เพราะแสงอาทิตย์จะส่องลงมายังพระที่นั่งพอดี) นอกจากนั้นเมื่อมองไปยังด้านบนปล่องถ้ำจะเห็นว่ามีลักษณะแผ่นหินเชื่อมติดกันคล้ายกับสะพาน ซึ่งจุดนี้เรียกว่า "สะพานมรณะ" ส่วนบริเวณพื้นทางเดินเป็นปุ่มหินขนาดเล็กใหญ่สลับกันไปคล้ายกับปุ่มหลังของจระเข้ จึงมีชื่อเรียกว่า "ทางสันจระเข้" แต่ทางเดินขึ้นไปยังถ้ำซึ่งมีระยะทาง 430 เมตร มีความลาดชัน เส้นทางเป็นหินขรุขระเกือบตลอดเส้นทาง ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดิน แต่มีความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีจุดแวะพักให้ชมทิวทัศน์รอบๆ ได้ด้วย นอกจากนั้น บริเวณโดยรอบถ้ำยังมีความสวยงามเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหาดแหลมศาลาซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องระหว่างภูมิประเทศเขาหินปูนและชายฝั่งทะเล มีลักษณะเป็นภูเขาล้อมรอบ 3 ด้าน ด้านหน้าเป็นท้องทะเลอ่าวไทยที่งดงาม โดยหาดแหลมศาลายังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 900 เมตร มีความน่าสนใจของธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งภูมิประเทศเขาหินปูน ภูมิประเทศชายฝั่งทะเล และพืชพรรณเฉพาะบริเวณเขาหินปูน เช่น ปรงเขา จันผา สลัดได เป็นต้น................................................................................................................................Royal pavilion (Tham Phraya Nakhon) " King Chulalongkorn. The commemoration of the people of Thailand. October 23 of every year is a day of national importance. It is the people of Thailand have jointly commemorate the benevolence of His Majesty King Rama V or King Chulalongkorn, King Rama 5. The king had a royal duties to the nation and its people so much. And also take care of the welfare of the people of Thailand, whether any local residents with a royal visit to the various districts. The official royal visit. And unofficially withdraw (His trip to occupations without notice) to make them aware of the lives of real people. One place where King Rama V had ever visited it. "Tham Phraya Nakhon" Kui Buri. Prachuap Khiri Khan Province An exquisitely beautiful cave until he came to a royal visit to this cave once. Phraya Nakhon Cave is a magnificent atmosphere. "Tham Phraya Nakhon" was discovered by Phraya Nakhon. When traveling by boat, heading up to Bangkok. The lead ship in a storm shelter room to park and explore the caves found at the top. This cave is known as "Tham Phraya Nakhon" and the same pitches. I dug up a drink called "Bo Phraya Nakhon", which is prior to the walk up to Phraya Nakhon Cave. The beauty of this cave is a cave stalagmites and stalactites, is like a waterfall. Until King Rama V had known. His intention, he will come to tour the cave. In one of the royal visit to Malaya. He came aboard in Phraya Nakhon Cave on 20 June 2433. In the same God has graciously given her memoirs, turned brilliantly Worawong Wong. Design and build the tabernacle cruciform width 2.55 meters long and 8 meters high, 2.55 meters, was built in Bangkok. Then later attributed to The prince was a bad strategic delay construction. And His Majesty King Chulalongkorn to come gable raised himself. King called and "Royal pavilion Royal pavilion The royal pavilion A symbol of Phraya Nakhon Cave. When looking into the mouth of the cave. To see the sun shining through the chimney at the top. Down to the Pavilion. Shining a Bright Light And has been cited as one of Unseen Thailand is one of the 10 destinations of a wonderful province. It is also a tourist attraction one of the nine wonders of the day that is truly spectacular. The Guide 12 7 Stars 9, East of the Tourism Authority of Thailand and the royal pavilion is also a symbol of Prachuap Khiri Khan province as well. Monogram of King 5 and King 7. Also coming aboard Tham Phraya Nakhon in time. He ordered To build the tabernacle cruciform It also ordered The engraved monogram JPR a cave at the north wall of the chancel. To symbolize that he had come aboard at this place already. In addition, King 5, there are also two other kings, he had visited Tham Phraya Nakhon, too, that the reign of King Rama VII 7 has a monogram on P.p.r.. this cave was visited on 20 June 2469 and His Majesty King Bhumibol Adulyadej Rama 9've visited Tham Phraya Nakhon twice on June 22, 2501 and May 31 May. Fri. 2524 Tract for up to Phraya Nakhon cave. People who come to see the "Tham Phraya Nakhon" to see the beauty of stalagmites and stalactites. And the beauty of the royal pavilion on the sun. (Best time to visit the most beautiful yacht is 10:30 to 11:00 hrs. Because the sun shines down upon the throne fit) Also, when looking at the chimney above the cave that looks like a slab adjacent to the bridge. This point is called the "Bridge of Death" is a small stone path ways, is the most similar to the switch to the back of a crocodile. It is called "The crocodile was" the path up to the cave, which is 430 meters with slopes, rocky path almost all directions. Must use caution when walking. But there is plenty of shade from trees. And also a stopover for sightseeing around it. In addition, the area around the cave is very beautiful. Whether Laem Sala the continuous space between the limestone terrain and coastline. It is a three-sided mountains surrounding the picturesque Gulf of Thailand. The Laem Sala is also a nature trail distance of 900 meters, with a variety of natural attractions. The limestone terrain Coastal terrain And specific plants such as cycads, he Pha Dai limestone and so on.x
.jpg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น