วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

พระธาตุศรีสองรัก







ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กม. หรือห่างจากตัวจังหวัด 83 กม. ไปตามทางหลวงหมายเลข 203 แล้วแยกขวาตรงกม.ที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กม. จากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กม. พระธาตุศรีสองรักมีรูปทรงสัณฐาน คล้ายพระธาตุพนม  มีงานนมัสการใหญ่โตทุกปีในช่วงเดือน 6 มีประชาชนเคารพนับถือมาก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรกศิลปะธิเบตด้วย

สร้างเมื่อ  พ.ศ.2103  แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2106 ในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์แห่งกรุงศรีอยุธยาเพื่อเป็นสักขีพยานแสดงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกัน กับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต  (เวียงจันทร์)ประวัติความเป็นมาของพระธาตุศรีสองรักพระธาตุศรีสองรัก  เป็นเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐถือปูนมีฐานเป็นเหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละประมาณ  8 เมตร  สูงประมาณ 32  เมตร  อยู่ห่างจากที่ตั้งจังหวัดเลยไปทางทิศตะวันตกประมาณ  1กิโลเมตรและอยู่ห่างจากที่ตั้งจังหวัดเลยไปทางทิศตะวันตก ประมาณ  83  กิโลเมตร  องค์พระเจดีย์ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุศรีสองรักบนเนินริมน้ำหมัน  ซึ่งเป็นวัดที่ไม่มีพระภิกษุพำนักอยู่ในวัดนอกจากองค์พระเจดีย์แล้ว  ถัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีโบสถ์  1  หลัง  ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปนาคปรก  1  องค์  และพระพุทธรูปอื่น ๆ อีกบ้าง  และถัดองค์พระเจดีย์ไปทางทิศตะวันตกมีศิลาจารึก  1  แผ่น  ซึ่งจารึกตำนานการสร้างพระธาตุศรีสองรักด้วยอักษรธรรมอยู่ด้วย

 Located on the banks of the river dead Away from the district about 1 km., Or from the city 83 km. Onto Highway 203, then turn right at Km. No. 66 to Highway No. 2013 for 15 km., Then turn right onto Route 2113 about 1 km. Relics. Si Song Rak-shaped configuration. Similar Tatupnm A great worship every year during the 6 is very respected. There is also a statue of Buddha in the temple of Tibetan art.

Built in 2103 and completed in 2106 during the reign of King Chinnarat of Ayutthaya to witness the good relations between them. God Setthathirath of Sri Satya Naga City Nhue. (Medium) A History of Phra That Si Song Rak Phra That Si Song Rak. It is a brick pagoda has an octagonal base square. A width of about 8 meters high and about 32 meters away from the location to the west of Loei Province. 1 km away from the Loei province, about 83 kilometers to the west pagoda in Wat Phra That Si Song Rak on the edge of sterile water. The temple, a monk residing in the temple and pagoda. Next to the northeast, the church one after the church has a statue of Buddha Episode 1 and other Buddha again, and next to the pagoda to the west and a stone engraved one plate which was inscribed the legend of Phra That Sri Song Rak. the characters are fairly

พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน






ผีตาโขนเป็นการละเล่นตามประเพณีวัฒนธรรมมาช้านาน ทางทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.Thongteaw.com) ก็เคยได้ยินกล่าวถึงบ้างและเป็นที่สนใจจนได้มีโอกาสมาเก็บข้อมูลท่องเที่ยวที่จังหวัดเลยจึงขอพาทุกท่านมาเยี่ยมชม แต่เนื่องจากยังมิใช่ช่วงที่มีการแห่ผีตาโขนจึงขอพาไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ซึ่งโอกาสหน้าเมื่อมีโอกาสมาในช่วงเทศกาลจะเก็บภาพมาฝากกันอีกครั้งนะคะ 

    
พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย
วัดโพนชัยที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ผีตาโขน

พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย
บรรยากาศภายในวัดโพนชัย
     
      พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ตั้งอยู่ภายในวัดโพนชัย อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นสถานที่เก็บ และจัดนิทรรศการเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ที่สืบต่อกันมา รวมถึงผีตาโขนที่มีความเชื่อกันว่าเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณกาล ว่างานบุญผีตาโขนนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานบุญหลวง ที่ถือว่าเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่นที่รวมเอางานบุญพระเวส (ฮีตเดือนสี่) และงานบุญบั้งไฟ (ฮีตเดือนหก) ให้เป็นงานบุญเดียวกันโดยงานบุญพระเวสมีวัตถุประสงค์จัดเพื่อให้ฟังเทศน์มหาชาติ ส่วนงานบุญบั้งไฟนั้นเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อถวาย บูชาเทวาอารักษ์รักเมือง ขอให้ฝนตกตามฤดูกาล ซึ่งผีตาโขนจะเป็นผู้ออกมาสร้างสีสันและความครื้นเครงในขบวนแห่ ส่วนชื่อของผีตาโขนนั้นเล่าต่อกันมาว่าน่าจะมาจากการสวมหน้ากากคล้ายหัวโขน หรือบางคนเรียกเป็นผีตาขน ผีตามคน และเพี้ยนเป็นผีตาโขนในที่สุด


หุ่นผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย หุ่นผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย หุ่นผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย
รวมพลแก๊งค์ผีตาโขนกันเต็มลานหน้าทางเข้าห้องจัดแสดง

หุ่นผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย หุ่นผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย หุ่นผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย
ผีตาโขนลักษณะและลวยลายต่าง ๆ รวมทั้งผีตาโขนใหญ่ (ภาพที่สองจากซ้าย)


     นอกจากส่วนที่จัดแสดงประวัติวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ แล้วภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงหุ่นผีตาโขนที่มีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกัน และมี 2 ประเภทคือ ผีตาโขนใหญ่ ผู้ชายและผู้หญิงจะไม่มีการทำใหม่ทุกปี แต่จะทำตามธรรมเนียมที่กำหนดไว้เท่านั้น และผีตาโขนเล็กที่เราพบเห็นกันทุกปี นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการทำหน้ากากผีตาโขนที่มีส่วนประกอบดังนี้ 

-หัวของผีตาโขน ทำจากหวดนึ่งข้าวเหนียวมาหักพับขึ้นให้มีลักษณะคล้ายหมวก
-หน้าทำจากโคนก้านมะพร้าวถากเป็นรูปหน้ากาก เย็บต่อกับส่วนหัว แล้วเจาะช่องตา
-จมูกทำจากไม้เนื้ออ่อนแกะสลักเป็นรูปร่างต่าง ๆ คล้ายกับจมูกคน ปัจจุบันนิยมทำยาวเป็นงวงช้าง
-เขาทำจากปลีมะพร้าวแห้งมาตัดให้ได้ขนาดที่ต้องการแล้วติดที่ข้างหวด
-การตกแต่งลวดลายเมื่อก่อนนิยมใช้สีธรรมชาติ เช่นปูนขาว ปูนแดง ขี้เถ้า ขมิ้น เขม่าไฟ ปัจจุบันนิยมสีน้ำมันเพราะสะดวกและมีสีสันสดใส จากนั้นจะนำเศษผ้ามาเย็บต่อกับหวดและหน้ากากให้ผ้าคลุมมิดไหล่ 

      สำเร็จเสร็จกลายเป็นหุ่นผีตาโขนในที่สุด สำหรับท่านที่ต้องการมีของที่ระลึกของฝากที่เกี่ยวกับผีตาโขนล่ะก็บนพิพิธภัณฑ์ก็มีร้านจำหน่ายของที่ระลึกไว้บริการทุกท่านด้วย


หุ่นผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย หุ่นผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย หุ่นผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย หุ่นผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย
ผีตาโขนต่างสาย หน้าตาก็ต่าง ๆ กัน แต่สีสันและลวดลายข่มกันไม่ลงจริง ๆ

วิธีการทำหน้ากากผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย ร้านจำหน่ายของที่ระลึกพิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย จ.เลย
ภายในพิพิธภัณฑ์ผีตาโขนมีการจัดแสดงการทำหน้ากากผีตาโขน และมีซุ้มจำหน่ายของที่ระลึกอีกด้วย


การเดินทาง
จากที่ว่าการอำเภอด่านซ้ายเดินทางมาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 2114 ผ่านสภอ.ด่านซ้าย และตลาดด่านซ้าย เลยสะพานข้ามไปเล็กน้อยจะเห็นวัดโพนชัยอยู่ทางซ้ายมือ พิพิธภัณฑ์ผีตาดขน อยู่ภายในวัด 

Phi Ta Khon is a traditional cultural activities for a long time. Team Tourism Board. (www.Thongteaw.com) I've heard mention of it, and it is interesting to have the opportunity to gather information, tour the province so let's all come to visit. But since there is not a parade during the Ghost Dance would like to take a visit to the museum. In the future when the opportunity came during the festival to keep it together again.

   
Folk Museum Dan Sai Loei. Museum Ghost Dance. Dan Sai Loei. Museum Ghost Dance. Dan Sai Loei. Museum Ghost Dance. Dan Sai Loei.
Wat Phon Chai at the Museum Ghost Dance.

Folk Museum Dan Sai Loei. Museum Ghost Dance. Dan Sai Loei. Museum Ghost Dance. Dan Sai Loei.
Inside Wat Phon Chai
   
       Folk Museum Located within Wat Phon Chai. Dansai. Has a store location. And exhibitions about the history of customs and traditions of the people. The Ghost Dance is believed to be the successor to the old folk. The Ghost Dance ceremony is part of the favors. Which is considered the merits of the local annual festivals include the West. (Heat four months) and Rocket (heat six months) to the same religious merit by the West aims to listen to the Sermon. Segment Rocket is an event held to honor. Guardian deity worshiped Love The seasonal rains The Ghost Dance would be to create a colorful and boisterous parade. The names of the Ghost Dance to that then I would be wearing a mask similar to the mask. Some people call it eye hair and cast a ghost in the Ghost Dance.


Ghost Dance Ghost Dance Puppet Museum. Dan Sai Loei. Puppet Museum Ghost Dance Ghost Dance. Dan Sai Loei. Puppet Museum Ghost Dance Ghost Dance. Dan Sai Loei.
What gang Ghost Dance full front entrance to the exhibit.

Ghost Dance Ghost Dance Puppet Museum. Dan Sai Loei. Museum Ghost Dance. Dan Sai Loei. Puppet Museum Ghost Dance Ghost Dance. Dan Sai Loei. Puppet Museum Ghost Dance Ghost Dance. Dan Sai Loei.
Ghost Dance manner and the network design, including the Ghost Dance. (Photo at left).


      In addition to showcasing the history, culture, traditions, and the museum has organized a puppet show Ghost Dance that looks different and there are two types of men and women of Ghost Dance will be made every year. It is traditionally scheduled. Phi Ta Khon Lek and we see every year. There is also a demonstration of the Phi Ta Khon mask with the following components.

- The head of the Ghost Dance Made from steamed sticky rice steamer folded up to look like a hat.
- Home made ​​from silicone Kganmaprgaw whittling a mask. Stitched to the header Then penetrate the eye
- The nose is made of wood carved into the shape of the nose similar. Currently doing a trunk length
- He made ​​from dried coconut sprouts, cut to size, and then stick to the steamer.
- Decorative pattern as before, using natural colors like turmeric, lime, lime, ash, soot, lamp oil is popular because it is convenient and colorful. Then put a piece of cloth sewn to the steamer and cover completely covers the shoulders.

       Successfully completed a puppet in the Ghost Dance. For those who want a souvenir of the deposit with respect to what it is on the Phi Ta Khon Museum has a gift shop on site visitors.


Ghost Dance Ghost Dance Puppet Museum. Dan Sai Loei. Puppet Museum Ghost Dance Ghost Dance. Dan Sai Loei. Puppet Museum Ghost Dance Ghost Dance. Dan Sai Loei. Puppet Museum Ghost Dance Ghost Dance. Dan Sai Loei.
Ghost Dance was a line looks different colors and patterns, but not really a threat.

How to make a mask Ghost Dance. Folk Museum Dan Sai Loei. Souvenir Store Museum Ghost Dance. Dan Sai Loei. Museum Ghost Dance. Dan Sai Loei. Museum Ghost Dance. Dan Sai Loei.
The museum has exhibits Phi Ta Khon mask making Ghost Dance. And has a gift shop, too.


travel
Dan Sai District from 2114 through traveling along Highway Police. Downtown. Dan and Marketing I go a little bridge to the Wat Phon Chai is on the left. Tad Dickens Museum fur inside the temple.

วัดศรีคุณเมือง

 



เชียงคาน อำเภอเล็กๆ ติดริมแม่น้ำโขง ที่นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามแล้ว ดินแดนเล็กๆ แห่งนี้ ยังถือว่าเป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนาอีกด้วย เพราะไม่ว่าเราจะหันหน้าไปทางไหน ก็จะพบวัดกับชุมชนที่ตั้งอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน หรือแม้แต่การร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านในพิธีบุญสำคัญๆ ในแต่ละเทศกาลที่เวียนมาถึง ก็ยังคงได้รับการสืบทอดและปฏิบัติติดต่อกันมาจวบจนปัจจุบัน

“วัดศรีคุณเมือง” หรือ “วัดใหญ่” หนึ่งในหลายศาสนสถานสำคัญและถือเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านที่นี่ ตั้งอยู่บนถนนชายโขง ระหว่างซอยศรีเชียงคาน 6 และซอยศรีเชียงคาน 7 วัดนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2485 และถือเป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคานมาอย่างยาวนาน และทุกวันพระรวมถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนา วัดแห่งนี้จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ซึ่งมีทั้งชาวเชียงคานเองรวมถึงนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ที่ต่างก็พร้อมใจกันมาร่วมทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ ฟังธรรมกันอย่างถ้วนหน้า

ครั้งแรกที่มาถึง เมื่อเราเดินผ่านกำแพงแก้วเข้ามาภายในบริเวณวัด ก็ต้องสะดุดตากับโบสถ์เก่าแก่ที่มีหลังคาลดหลั่นกันลงมาตามแบบศิลปะล้านนา อยู่เบื้องหน้า นอกจากนี้บริเวณผนังด้านหน้าของพระอุโบสถยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ปรากฏให้เห็นอยู่เต็มหน้าบรรณ ซึ่งภาพทั้งหมดนี้เป็นภาพนิทานชาดกชุด พระเจ้าสิบชาติ และถ้าสังเกตยังบริเวณด้านล่างของภาพจะเห็นว่ามีรูปรถตุ๊กตุ๊กอยู่ด้วย ทำให้สันนิฐานได้ว่า น่าจะเป็นภาพที่ถูกเขียนขึ้นมาใหม่หรืออาจมีการแต่งเติมลงไปบนภาพเขียนเดิม ก็เป็นได้


และเมื่อเดินผ่านประตูโบสถ์เข้ามาด้านใน ก็จะพบกับพระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรักปิดทอง ปางประธานอภัย ที่สร้างตามแบบศิลปะล้านช้างหรือแบบลาว ซึ่งคาดว่าน่าจะสร้างขึ้นมาในสมัยพุทธศตวรรษที่ 24-25 และมีข้อสังเกตว่าสำหรับผู้หญิงแล้ว การที่จะเข้ามาสักการะพระพุทธรูปไม้จำหลักนี้ จะทำได้เพียงการก้มกราบอยู่ตรงบริเวณด้านล่างของอาศนะสงฆ์เท่านั้น

ก่อนกลับให้ลองสักเกตบริเวณด้านข้างของพระประธานกันให้ดีๆ เพราะจะมี “ฮางฮด” หรือ “รางรด” ที่มีลักษณะคล้ายรางน้ำตั้งอยู่ โดยตัวรางจะเป็นรูปของเรือสุพรรณหงส์ ส่วนด้านหน้าจะเป็นเศียรของพญานาค และส่วนท้องค่อนมาทางหัวของพญานาคจะมีรูให้น้ำไหลลงมาได้ ฮางฮดนี้จะใช้ในการประกอบพิธีสรงน้ำพระผู้ใหญ่หรือเจ้าเมืองเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันหาดูได้ยากแล้ว



ที่อยู่ : ระหว่างซอยศรีเชียงคาน 6-7 ถ.ชายโขง ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย
GPS :
N17 53 38.26, E101 39 8.46
เบอร์ติดต่อ : 042 821 309
เวลาทำการ : 6.00-18.00 น.
ช่วงเวลาแนะนำ : ตลอดทั้งปี
ไฮไลท์ : รางรดรูปเรือสุพรรณหงส์ ส่วนด้านหน้าจะเป็นเศียรของพญานาค และส่วนท้องค่อนมาทางหัวของพญานาคจะมีรูให้น้ำไหลลงมาได้ ซึ่งในปัจจุบันหาดูได้ยาก
กิจกรรม : ไหว้พระขอพร / ชมศิลปะภาพจิตรกรรมฝาผนัง


Chiang small district along the river. In addition to the already magnificent natural attractions of this small territory is also a city of Buddhism as well. It is not that we are facing now. Was found to scale with community located together harmoniously. Or even the cooperation of key people in the ceremony favors. Each season that comes up. Have also been passed and fill each other up until now. 

"Wat Si Khun Mueang" or "large", one of many places of worship and is regarded as the heart and soul of people here. Located on Mekong Between Soi 6 and Soi Sri Sri Chiang Khan 7 This temple was built in 2485 and is the oldest temple in Chiang priceless heritage. And every day, as well as an important Buddhist days. This temple is crowded with people. Which is both the minutes and include visitors. That they were to listen to the sermon merit some coverage. 

The first arrival When we went through the wall into the temple. Notably, it must be an old church that has cascaded down the roof of Lanna style. ahead Also, the wall in front of the temple has a mural. To appear in a full-page editorial. In all, this is a Jataka stories. Ten Incarnations And if that is the bottom of the picture you can see a picture with a tuk tuk. That make spatially It is an image that could have been written or additions to the original painting as possible. 

 
You walk through the church doors and came inside. But you have a wooden Buddha statue carved and gilded Buddha presidential pardon. Created by Art million elephants in Laos. This is expected to be built in the 24-25 century, and has noted that for women. Added to this carved wooden Buddha image. I can only bow down at the bottom of The Sun's clergy only. 

Before leaving, try a gate on the side of the principal carefully because it is "hard to ฮd" or "watering trough" that looks like a trough located. The groove is formed by the swan. The front part of the head of the serpent. And abdomen almost to the head of the serpent has holes allow water to flow down. Hang ฮd is used in the ritual bathing, the adults or the city. Currently, it is rare. 



Location: Road between Soi Sri Chiang 6-7. Mekong Sub. Khan A.. Khan,. Yet. 
GPS: 
N17 53 38.26, E101 39 8.46. 
Tel: 042 821 309 
Hours: 6:00 to 18:00 pm. 
Best time: Throughout the year. 
Highlights: tracks upon a swan. The front part of the head of the serpent. And abdomen almost to the head of the serpent has holes allow water to flow down. Now, this is rare. 
Activities: temples / art murals.

สวนหินผางามหรือคุนหมิง





อยู่ที่บ้านผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ จากอำเภอหนองหินเข้าไปประมาณ 18 กิโลเมตร ภายในสวนหินผางามมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับน่าตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ นอกจากนี้ ตลอดเส้นทางยังมีโอกาสพบเห็นต้นไม้หายากและต้นไม้ยักษ์อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี สวนหินแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “คุนหมิงเมืองเลย” นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำชมสวนหินผางามที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ค่านำชม 100 บาท สอบถามเพิ่มเติมที่ อบต.หนองหิน โทร. 08 1462 1719

At Pa Ngam, Moo 10 Tambon Nong Puan Phu district, about 18 kilometers into the interior stone garden paths are complex. Some mysterious, adventure is exciting, similar to the maze. Some will have to climb the rock shelter. Or may be settled through the hole, the course provides an opportunity to see rare plants and giant trees and cycads were the last several hundred years. This rock garden, it has another name called. "Kun Ming City's" Call For Tourists can visit the stone garden at the Visitor Center, 100 baht For more information, visit Taos. Nong Hin. Tel: 08 1462 1719.

ภูเรือ



อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ มีเนื้อที่ประมาณ 75,525 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2522 เดือนที่เหมาะมาเที่ยวคือเดือนตุลาคม ถึงมีนาคม

ภูเรือเป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือมีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่

จุดที่น่าสนใจบนอุทยานแห่งชาติภูเรือ
จุดชมทิวทัศน์เดโช เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ในวันที่อากาศดีนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูต่างๆของเมืองเลยได้
ผาโหล่นน้อย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมาก จากจุดนี้จะมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่ง และทะเลภูเขาสลับซับซ้อน
ผาซำทอง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 2.5 กิโลเมตร เป็นหน้าผาสูงชัน และแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทองขึ้นเต็มไปทั่ว จึงเรียกว่า ผาซำทอง
น้ำตกห้วยไผ่ ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชัน มีความสูงประมาณ 30 เมตร น้ำตกแห่งนี้นำไปใช้ทำน้ำประปาในอำเภอภูเรือด้วย
ยอดภูเรือ เป็นจุดที่สูงที่สุดในอุทยานฯ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,365 เมตร บริเวณโดยรอบเป็นลานหินที่มีทุ่งหญ้าขึ้นแซมสลับกับป่าสน มีทั้งสนสองใบที่ขึ้นตามธรรมชาติและสนสามใบที่เป็นสนปลูก จากจุดนี้ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงที่กั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาวได้
นอกจากนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำหินแตก หินค้างหม้อ หินวัวนอน หินพานขันหมาก หินพระศิวะ สวนหินเต่า ซึ่งหินเหล่านี้มีรูปร่างตามชื่อเรียก ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าช่วงปลายฝนต้นหนาวมีดอกไม้เล็กๆขึ้นอยู่ทั่วไปน่าชมมาก
 
ที่พักในอุทยานฯ ติดต่อที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 www.dnp.go.thหรือ อุทยานแห่งชาติภูเรือ โทร. 0 4288 4144

การเดินทาง

จากตัวเมืองเลยใช้ทางหลวงหมายเลข 203 (เลย-ภูเรือ) ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตร 49-50 ตรงที่ว่าการอำเภอภูเรือ เข้าไปเป็นทางลาดยางประมาณ 8 กิโลเมตร รถยนต์สามารถขึ้นได้ และมีทางเดินเท้า 700 เมตร ก็จะถึงยอดภูเรือ

Phu Rua National Park Located in Tambon Nong Bua Yai District, with an area of about 75,525 hectares was declared a National Park on July 26, 2522 for a friendly visit is from October to March. 

Commemorate the mountains The peak is steppe A complex pine trees Is strange is partly overhanging cliff like a big head Brig. 

Points of interest on the Phu Rua National Park. 
Decho viewpoint Watch the sunrise On a clear day, visitors can see the mountain in Loei. 
Rock the final few meters from the park office about 3 miles to watch the sunrise is very beautiful. This is visible from the Phu Pha Sat, Phu Lac, mountains and sea. 
Conventional sum of gold away from the park about 2.5 miles, a steep cliff. And the capillary with water plants, lichens, like yellow gold filled up the so-called conventional sum of gold. 
Bamboo Creek Falls is located approximately 2 kilometers from the park with a waterfall flowing down the steep cliff. The waterfall is about 30 meters deployed by dropping from a steep water. 
Charm is the highest point in the park. At an altitude of 1,365 meters above sea level surrounded by a stone with Sam grassland interspersed with pine forest. With two pine with natural pine and fir trees are planted. From this point on a clear day, visitors can see the river Ehื the border between Thailand and the Mekong River - Laos. 
There is also a point of interest, many of the Stone Caves Stone cow lying down pot Shiva Stone Wedding rock garden stone tortoise which was shaped by these names. Set amidst meadows in late winter rain with little flower is generally very spectacular. 
 
Accommodation in the park Contact the National Park, Wildlife and Plant Tel. 0 2562 0760 www.dnp.go.th or. Chiang Khan calls. 0 4288 4144. 

travel 

From the city to Highway 203 (Loei - Phu) about 50 miles and turn right at Km 49-50 at Phu District. Into a paved trail about 8 miles up the place. And walk 700 meters to reach the top of Rua.

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

สวนกล้วยไม้ และฟาร์มผีเสื้อ


สวนกล้วยไม้และฟาร์มผีเสื้อ
เลี้ยวซ้ายบริเวณสามแยกแม่ริม-สะเมิง มีสวนกล้วยไม้ และฟาร์มผีเสื้ออยู่หลายแห่

โทร. 0 5329 8771-2 โทรสาร 0 5329 7892


ตามเส้นทางนี้มีอยู่หลายแหล่งที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ได้รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้ที่แปลกหาดูได้ยาก อาทิสายน้ำผึ้งพิพิธภัณฑ์กล้วยไม้ไทย ไปตามถนนสายแม่ริม-สะเมิง 2 กิโลเมตร และแยกซ้ายอีก 1 กิโลเมตร เป็นสวนกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ มีฟาร์มผีเสื้อ แมวไทย และสัตว์อื่นๆให้ชม ตรงกันข้ามเป็นสวนกล้วยไม้เมาท์เท่น ออร์คิด โทร. 0-5327-9343 แม่แรมออร์คิด ตั้งอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 5.5 มีการปลูกพันธุ์กล้วยไม้นานาชนิด สาธิตการปลูกกล้วยไม้และจัดเป็นฟาร์มผีเสื้อด้วย จำหน่ายสินค้าที่ระลึกประเภทเครื่องประดับ เช่น เข็มกลัด ต่างหู สร้อย ซึ่งทำจากกล้วยไม้ ใบไม้ และแมลงต่างๆ



วิธีการเดินทางไปสวนกล้วยไม้ และฟาร์มผีเสื้อ

การเดินทาง ตามเส้นทางนี้มีรถสองแถวสีเหลือง สายแม่ริม-สะเมิง  ท่ารถอยู่ใกล้ตลาดวโรรส บริเวณสี่แยกศรีนครพิงค์ หลังร้านโอ้วจินเฮง รถแม่ริมวิ่งบริการจนถึงเย็น



ระยะทางและเวลาที่ใช้เดินทางโดยประมาณ

อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 22 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายแม่ริม-สะเมิง ไปประมาณ 2 กิโลเมตร แยกซ้ายเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้ทุกชนิด ใช้เวลาเดินทางมาณ 25 นาที

อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ  22   กิโลเมตร ไปตามถนนสายแม่ริม-สะเมิงไปประมาณ  2  กิโลเมตร และแยกซ้ายอีก 1กิโลเมตร เป็นสวนกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ มีฟาร์มผีเสื้อ แมวไทย และสัตว์อื่นๆให้ชมด้วย ตั้งอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 5.5 มีการปลูกพันธุ์กล้วยไม้นานาชนิด



พิกัด : 18.9155100,98.9371000

เบอร์โทรศัพท์ติดต่อสอบถามข้อมูลของแหล่งท่องเที่ยว

โทร.  0 5329 7152, 0 5329 8771-2 โทรสาร+66 5329 7892

ช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมหรือเวลาเปิดปิด

เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00 - 17.00

ค่าเข้าชมหรือค่าธรรมเนียม

 ค่าเข้าชมเด็ก 20 บาท

 ผู้ใหญ่ 40 บาท มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม

สิ่งอำนวยความสะดวก

จำหน่ายสินค้าที่ระลึกประเภทเครื่องประดับ เช่น เข็มกลัด ต่างหู สร้อย ซึ่งทำจากกล้วยไม้ ใบไม้ และแมลงต่างๆ โทร. 0-5329-8801-2

สถานที่พักใกล้เคียงพร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ



โรงแรม แม่ริม ลากูน เบด แอนด์ เบเกอรี่ เชียงใหม่ (ชื่อเดิม แม่ริม ลากูน) ติดต่อสอบถาม และจองด่วน โทร 053-266-550, 053-266-551, 053-266552, 053-266555 แฟกซ์ 053-266556
จีรัง เฮลท์ รีสอทร์   โทร. 053-861511
สุกันทรา แคสเคด รีสอร์ท แอนด์ สปา  โทร. 081-881 6570


ร้านอาหารใกล้เคียงพร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ

ร้านอาหารต้นตองโทร .0 5327 8655
ร้านอาหารบ้านสวนแม่ริม  เบอร์โทร 053-297421
 ร้านอาหาร ครัวคุณยายใหญ่   เบอร์ติดต่อ 058-297288-90


รายละเอียดการติดต่อเพิ่มเติม

สายน้ำผึ้งพิพิธภัณฑ์กล้วยไม้ไทย
โทร. 0 5329 8771-2
โทรสาร 0 5329 7892
ค่าเข้าชมเด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม เปิดให้เข้าชม 07.30–17.00 น

แม่แรมออร์คิด
เปิดให้เช้าชม 08.00–16.00 น.
ค่าเข้าชมเด็ก 20บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม

สวนบัวแม่สาออร์คิด
โทร. 0 5329 8564
โทรสาร 0 5386 0365
ค่าเข้าชมคนไทย 20 บาท ต่างชาติ 60 บาท (เด็กครึ่งราคา) เปิดให้เข้าชม 08.00–17.00 น.

ใบออร์คิดแอนด์บัตเตอร์ฟลายฟาร์ม
โทร. 0 5329 9588 โทรสาร 0 5329 9222
เปิดให้เข้าชม 07.30–17.00 น.
ค่าเข้าชมเด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม (รองรับได้ประมาณ 200 ท่าน)
Orchid and Butterfly Farm
Turn left at the T-junction of Mae Rim - Chiang. Orchid Garden And a flocked butterfly farm several

Tel. 0 5329 8771-2 Fax: 0 5329 7892.


This trail is open to visitors several sources. A collection of rare and exotic orchids. Such as honeysuckle, orchid, Thailand Museum Along Rim - Chiang 2 miles and turn left for 1 kilometer is the largest orchid farm in Chiang Mai. Thailand has a butterfly farm cats and other animals to watch. Conversely, the Orchid Garden, Mountain Orchid Tel. 0-5327-9343 Mae Ram Orchid. Located about 5.5 kilometers are planted orchid species. Demonstration of orchid and butterfly farm as well. Souvinir types of jewelry such as brooches, earrings, necklace, made of orchid leaves and insects.



How a trip to the farm And Butterfly Farm

Follow this path with two rows of yellow. Mae Rim - Chiang Mai Bus station near Warorot. Intersection Pink Srinagar After Oh Jin Heng. Rim bus service runs to refrigerator



The distance and estimated travel time.

Away from the city about 22 kilometers along the Mae Rim - Chiang Mai, about 2 km, turn left and go about 1 mile is the gathering place for all types of orchid species. Travel time as 25 minutes.

Away from the city about 22 miles down the road in Mae Rim - Chiang Mai, about 2 miles and turn left for 1 kilometer is the largest orchid farm in Chiang Mai. Thailand has a butterfly farm cats and other animals to visit with. Located about 5.5 kilometers are planted orchid species.



Coordinates: 18.9155100,98.9371000

Telephone inquiries of attraction.

Tel. 0 5329 7152, 0 5329 8771-2 Fax: +66 5329 7892.

A reasonable period or time off.

It is open from 08.00 - 17.00.

Admission fees or

  Admission is 20 baht for children

  Adults 40 baht a serving drinks.

Facilities

Souvinir types of jewelry such as brooches, earrings, necklace, made of orchid leaves and insects that call. 0-5329-8801-2.

Nearby accommodation with contact phone numbers.



Mae Rim Lagoon Bed & Bakery Mai (Formerly Rim Lagoon) Inquiries and Booking call 053-266-550, 053-266-551, 053-266552, 053-266555, fax 053-266556.
Enduring health Resorta call. 053-861511.
Four Seasons Cascade Resort & Spa Tel. 081-881 6570.


Nearby Restaurants with contact phone numbers.

Ton Tong Restaurant Tel. 0 5327 8655.
Restaurants Chiang Mai Tel 053-297421.
  Grandma's Kitchen restaurant big Tel 058-297288-90.


More contact details

Honeysuckle Orchid Thailand Museum
Tel. 0 5329 8771-2
0 5329 7892, fax
Admission $ 40 adults, children 20 baht baht a serving drinks is open 7:30 to 17:00 pm.

Mae Ram Orchid
View open 08.00-16.00.
Admission $ 40 adults, children 20 baht baht a serving drinks.

Mae Rim Orchid
Tel. 0 5329 8564
0 5386 0365, fax
Admission is 20 baht in Thailand of 60 baht (children half price) open 08.00-17.00.

Bai Orchid and Butterfly Farm.
Tel. 0 5329 9588 Fax: 0 5329 9222.
Opening hours are 07:30 to 17:00 hrs.
Admission $ 40 adults, children 20 baht baht a serving drinks (up to 200 people).

พระตำหนักดาราภิรมย์

   พระตำหนักดาราภิรมย์ สร้างขึ้นหลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงย้ายกลับมาประทับที่เชียงใหม่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เจ้าดารารัศมีทรงใช้พระตำหนักหลังนี้ปฏิบัติพระกรณียกิจอันเป็นคุณูปการทั้งทางด้านเกษตร และศิลปะวัฒนธรรม อาทิ ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ทรงฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมล้านนาให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวเหนือ ทรงสร้างสวนทดลองการเกษตรชื่อ “สวนเจ้าสบาย” เนื่องจากทรงสนพระทัยในการเกษตรและทรงหวังที่จะช่วยการกสิกรรมของภาคเหนือ ทรงทดลองปลูกดอกกุหลาบพันธุ์ใหม่ๆ ที่ทรงได้จากสมาคมกุหลาบแห่งอังกฤษที่ทรงเป็นสมาชิกและพันธุ์ที่โปรดที่สุดเป็นกุหลาบดอกใหญ่สีชมพู กลิ่นหอมเย็น จึงทรงตั้งชื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์แต่พระบรมราชสวามีว่า “จุฬาลงกรณ์” และก่อนสินพระชนม์ เจ้าดารารัศมีได้ทรงทำพินัยกรรมประทานที่ดินนี้เป็นมรดกแก่ทายาท ต่อมาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ซื้อที่ดินต่อจากทายาท โดยมีการมอบโอนกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้องในเวลาต่อมา เจ้าดารารัศมีเป็นเจ้าจอมที่เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมากองค์หนึ่ง เพราะนอกจากเจ้าดารารัศมีมีพระอัธยาศัยอันงดงามแล้ว ยังทรงเป็นผู้เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าพระบรมราชวงศ์จักรีกับดินแดนล้านนา ซึ่งทำให้สถานการณ์ทางการเมืองแปรเปลี่ยนไปในทางที่ดียังประโยชน์แก่อาณาจักรสยามเป็นอย่างยิ่ง
    พระตำหนักดาราภิรมย์ในพระราชชายาเจ้าดารารัศมีเป็นมรดกล้ำค่าของแผ่นดิน ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับเกียรติเป็นผู้สืบทอดและพิทักษ์รักษา ด้วยตระหนักในภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้เอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงเห็นสมควรที่จะต้องบูรณะพระตำหนักดาราภิรมย์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์งดงามใกล้เคียงกับสภาพเดิมเมื่อกาลก่อน เพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆระหว่างบรรพชนในอดีต กับอนุชนรุ่นหลังเพื่อให้ได้ทราบถึงพระปรีชาสามารถ และพระกรุณาธิคุณของพระราชชาบาเจ้าดารารัศมี ขัตติยนาผู้ทรงอุทิศพระองค์ตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อความวัฒนาสถาพรแห่งดินแดนล้านนา นอกจากนี้พระตำหนักดาราภิรมย์ยังเป็นพระตำหนักที่ประทับสุดท้ายที่พระราชชายาเจ้าดารารัศมีทรงรักและผูกพันอย่างยิ่ง
    จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเห็นว่า พระตำหนักดาราภิรมย์อยู่ในสภาพทรุดโทรม แต่สภาพอาคารยังมีความมั่นคงแข็งแรง มีรูปแบบอาคารที่ชัดเจน อาจใช้เป็นกรณีศึกษา อาคารที่ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมตะวันตกในประเทศไทย การบูรณะใช้แนวทางอนุรักษ์และเตรียมการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2541 ด้วยการรักษาส่วนประกอบของอาคารและรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้อันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาฯ เพื่อจัดตั้งแสดงและตกแต่งห้องต่างๆให้อยู่ในสภาพใกล้เคียงกับอดีตมากที่สุด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากกลุ่มเจ้านายฝ่ายเหนือ พ่อค้า และประชาชนชาวเชียงใหม่ ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันบริจาคและเสาหาสิ่งของเครื่องใช้เพื่อจัดตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์
    ห้องต่างๆ ในพระตำหนักดาราภิรมย์
    ชั้นบน
   1.โถงทางเดิน จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระปฐมวงศ์ พระประวัติ พระตำหนักที่ประทับในพระราชชายาเจ้าดารารัศมีพระตำหนักดาราภิรมย์
   2.ห้องรับแขก จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย
   3.ห้องบรรทม จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย
   4.ห้องพักผ่อนพระอิริยาบถ จัดแสดงจานชาม เครื่องเสวย ของใช้ส่วนพระองค์ และเครื่องดนตรี
   5.ห้องจัดแสดงพระกรณียกิจ ด้านการศาสนา ด้านการเกษตร และด้านศิลปะศาสตร์
   6.ห้องจัดแสดงชุดเครื่องทรง ผ้าทอที่พระราชชายาฯทรงออกแบบลวดลายและส่งเสริมการทอ ชุดการแสดงที่พระราชชายาฯได้ทรงฟื้นฟูและทรงดัดแปลงศิลปะภาคกลางให้เข้ากับศิลปะภาคเหนือ
   7.ห้องสรง
  ชั้นล่าง
   จัดแสดงเครื่องมือเกษตร ที่ทรงใช้ในการทดลองการเกษตรแผนใหม่ ในสวนเจ้าสบาย นอกจากนั้นยังมีเครื่องทอผ้า ซึ่งใช้ทอผ้าสำหรับพระราชชายาฯโดยเฉพาะ
พระประวัติพระราชชายาเจ้าดารารัศมี
   เจ้าดารารัศมีประสูติ เมื่อวันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2416 ณ คุ้มหลวงกลางนครเชียงใหม่ เป็นพระธิดาในพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ทรงได้รับการศึกษาจากพระชนก-ชนนี ในเรื่องอักษรไทยเหนือและใต้เช่นเดียวกับกุลบุตรกุลธิดาในสมัยนั้น เมื่อเจ้าดารารัศมีทรงเจริญพระชันษาได้ 13 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าอินทวิชยานนท์จัดพิธีโสกันต์พร้อมกับพระราชทานเครื่องโสกันต์ระดับเจ้าฟ้าให้เจ้าดารารัศมีทรงใช้ในพิธีอีกด้วย เมื่อเจ้าดารารัศมีได้ตามเสด็จพระบิดาซึ่งเสด็จมาร่วมงานพระราชพิธีลงสรงและเฉลิมพระนามสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าดารารัศมีถวายตัวเข้ารับราชการฝ่ายในในฐานะเจ้าจอม เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2429 เจ้าดารารัศมีมีพระราชธิดาพระนามว่า พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าวิมลนาคนพีสีแต่ทรงเจริญพระชันษาเพียง 3 ปีเศษก็ประชวรสิ้นพระชนม์ เมื่อพระเจ้าอินทวิชยานนท์พระบิดาถึงแก่พิราลัย เจ้าดารารัศมีจึงทรงกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเสด็จขึ้นไปเยี่ยมนครเชียงใหม่ เนื่องจากได้เสด็จมาประทับที่กรุงเทพฯ เป็นเวลาถึง 22 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตอีกทั้งยังทรงโปรดเกล้าฯ จัดงานพระราชพิธีสถาปนาพระอิสริยยศเจ้าดารารัศมีจากเจ้าจอมมารดาขึ้นเป็นพระราชชายาเจ้าดารารัศมี แต่หลังจากที่พระราชชายาฯเสด็จกลับเชียงใหม่ได้เพียง 10 เดือนก็ต้องทรงประสบความเศร้าโศกอันยิ่งใหญ่ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเถลิงถวัลราชสมบัติสืบต่อมาพระราชชายาฯยังคงประทับ ณ พระตำหนักสวนฝรั่งกังไส พระราชวังดุสิต จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2457 จึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเสด็จกลับนครเชียงใหม่ พระราชชายาฯทรงดำรงพระชนม์อย่างสงบสุข ณ พระตำหนักดาราภิรมย์อยู่หลายปีจนสิ้นพระชนม์ด้วยโรคปัปผาสะพิการ (โรคปอด) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476 ณ คุ้มรินแก้ว รวมสิริพระชันษาได้ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดงานพระศพเป็นงานพิธีหลวง พระอัฐิส่วนหนึ่งบรรจุไว้ที่พระกู่ วัดสวนดอกจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นด้วยพระองค์เอง อีกส่วนหนึ่งอัญเชิญไปบรรจุไว้ ณ สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
   วัน – เวลา เปิดพิพิธภัณฑ์
   วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 17.00 น. (วันจันทร์หยุดทำการ)
   อัตราเข้าชมพิพิธภัณฑ์
   ผู้ใหญ่ 20 บาท
   เด็ก 10 บาท
   พระสงฆ์/นักเรียนในเครื่องแบบฟรี
พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (ในบริเวณค่ายดารารัศมี) โทร. 053 299 175
(คัดลอกจากเอกสารพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์)

Darabhirom Built after King Rama VI granted the royal royal princess radius. He moved back and sat in the Chiang Mai after King Rama V died. The radius of the palace after he is treated as a contribution of the agro-pastoral activities. Such as the preservation of cultural and artistic life. Arts and Crafts million to revive the pride of the North. Prototype creation of agricultural "God's Garden" because of his respect for the machinery and he hopes to help the agriculture of the region. The new varieties were planted roses. He rose from the Association of England and is a member of the most favorite varieties are fragrant rose pink evening, so he named King Memorial dedicated to the Royal Consort as "CU" and before the end of life. The radius has given this land to inherit intestate heirs. The University purchased the land from the heirs. The transfer of ownership will be required at a later time. The radius is the favorite concubine of King Rama V, one more. The radius is because in addition to the already magnificent hospitality. There was a strengthening relationship between the Lanna royal Chakri dynasty. This makes the political situation has changed in the best interests of the Kingdom of Siam as well.
     Darabhirom the royal princess star radius heritage of the land. The University was honored as a recipient and keep. We recognize the great responsibility this. Chulalongkorn University has agreed to renovate Darabhirom in perfect condition close to its original splendor increased. To establish a museum The objective is to link the stories of our ancestors in the past. The rising generation to be aware of the water problems. And the grace of a royal tea Manitoba The radius. Smash Na, who devoted his entire life. The Eternity Vadhana of Lanna. Also Darabhirom a palace that sat on the royal princess loves radius and bond strongly.
     Chulalongkorn University that Darabhirom into disrepair. But the building also has strong stability. There is a clear form building May be used as a case study Buildings influenced architecture in West Africa. Conservation and restoration guidelines for the establishment of a museum, constantly. Since October 2541, with a treatment component of building and collecting supplies in connection with the royal princess. To set up and decorate the various rooms in the house closest to the most. Chulalongkorn University, received the full cooperation of the merchant princes of the north, and the people of Chiang Mai. Who cooperation for donations and supplies to set up a pillar in the museum.
     Rooms in Darabhirom.
     upstairs
    1 corridor exhibits about the history of the Genesis family palace to mark the royal princess radius Darabhirom.
    2 living exhibit in connection with the offering of the royal princess radius. And contemporary
    3 bedroom exhibit presented relating to the royal princess radius. And contemporary
    Taking the Motion 4 Displaying dish meal and use of them. and Instruments
    5 Rooms showcase the duties of religion, agriculture and the arts.
    6. performed robes. Woven fabric royal princess shape design and promotional material. Show that the royal princess was restored and converted into an art arts central to north.
    7 ablution facilities
   downstairs
    Displaying agricultural He used to plan agricultural experiments. In a garden you There is also a loom. The fabric used especially for the royal princess.
Gospels royal princess radius.
    The radius born On Tuesday, August 26, 2416 as the effective capital of Chiang Mai. As the daughter of the Lord in Tavich drug. Ruler of Chiang Mai He was educated by his father - Mother. In a letter Thailand, North and South, as well as good son, children in those days. The radius on the growth of the age of 13 years, King Rama V had graciously. Impossible for God in Tavich Oskants ceremony with the Princess Royal Air Oskants The radius was used in the ceremony as well. The radius is based on the royal father, who came to attend the ceremony bathe and celebrate the name of King Crown Princess Maha's version of snow ice. Prince King Rama V ordered. The radius devoted themselves to the government as a party to MTV on February 4, 2429 The radius is the daughter's name was. His Royal Highness The elder flawless paint, but obeyed the age of just three years later he fell ill and died. Drug Twich joy when God the Father died. The radius is the king and the royal clemency Please note went up to visit Chiang Mai. The stamp has come to Bangkok for up to 22 years of King Chulalongkorn's royal relatives, also he ordered. The inaugural ceremony HRH The radius of a royal princess dowager radius. But after the royal princess went back to Chiang Mai was only 10 months, I have had to suffer grief awful. Since King Chulalongkorn died on October 23, 2453 when King Rama VI was crowned Thawansak successor to the throne, the royal princess was still sitting at the Central Park ฝraegkagas. Dusit Palace until the year 2457 has been a royal minders return to Chiang Mai. The royal princess was living peacefully at Darabhirom several years and died of disease, disability Papผasa (lung) on December 9, 2476 at the glass as it pours his feet at the age of 60 years. King Prajadhipok had graciously arranged for him a royal ceremony. Placed on the bone part mystery. Wat Suan Dok, Chiang Mai It was created by himself Added another invite to the royal tombs at Wat Maha Simaram static.
    Day - Museum Opening
    Tuesday - Sunday from 9:00 to 17:00 pm. (Closed Mondays).
    Museum admission rates
    Adult 20 Baht
    Children 10 baht
    Monks / students in uniform free.
Darabhirom the museum. Mae Rim Chiang Mai. (In the camp radius) Tel. 053,299,175.
(Copy of documents Darabhirom Museum).